Custom Search

Search This Blog

Wednesday, February 26, 2025

ขงเบ้งเตือน! 3 สิ่งที่ "คนฉลาด" ห้ามทำเด็ดขาด! ถ้าไม่อยาก"พังไม่เป็นท่า"

 เคยรู้สึกไหมว่าตัวเองก็ไม่ใช่คนโง่ แต่ทำไมบางครั้งถึงตัดสินใจอะไรโง่ๆไปได้ ยิ่งพยายามทำทุกอย่างให้ดีให้รอบคอบ แต่ผลลัพธ์กลับแย่กว่าเดิม เหมือนยิ่งวิ่งยิ่งหลงทาง

วันนี้ ผมไม่ได้จะมาสอนคุณให้เป็นคนฉลาด เพราะผมเชื่อว่าคุณฉลาดอยู่แล้ว แต่ผมจะมาเปิดโปงกลลวงทางความคิด ที่แม้แต่ขงเบ้งยอดนักปราชญ์แห่งสามก๊ก ยังเคยเตือนไว้ว่า คนฉลาดมักจะพลาดท่า เพราะเรื่องเหล่านี้ 

ลองคิดตามดูนะ ขงเบ้งผู้เข้าใจความเป็นไปของโลก ผู้ที่วางแผนการรบจนชนะศึกนับครั้งไม่ถ้วน ทำไมถึงยังต้องเตือนตัวเองและคนรอบข้าง นั่นก็เพราะความฉลาดอย่างเดียวไม่พอ มันต้องมีสติ และปัญญา ที่คอยกำกับไม่ให้หลงทาง ในสิ่งที่ทำให้คุณสับสนกับความคิดตัวเอง 

และนี่คือสิ่งที่คนไทยยุคนี้ ต้องรู้และเข้าใจ ถ้าไม่อยากเป็นคนเก่งที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า

กับดักที่ 1 หลงตัวเองว่ารู้ดี จนไม่ฟังใคร

ลองนึกภาพคนที่มั่นใจในตัวเองสูง อีโก้จัดเต็ม คิดว่าตัวเองเก่งที่สุดในโลก คนแบบนี้ ต่อให้มีไอคิวทะลุ 200 ก็มีโอกาสพังได้ง่ายๆ เพราะอะไรนะเหรอ ก็เพราะเขาปิดหูปิดตา ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น คิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่าง เข้าใจทุกเรื่อง จนไม่เปิดโอกาสให้ตัวเอง ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ขงเบ้งเองก็เคยเกือบพลาด เพราะความมั่นใจในตัวเองเกินไป แต่โชคดีที่มีเล่าปี่คอยเตือนสติ และมีเหล่าขุนพล ที่กล้าเสนอความคิดเห็นที่แตกต่าง ทำให้เขามองเห็นในสิ่งที่ตัวเองอาจมองข้ามไป 

แล้วการเลือกเชื่อแต่สิ่งที่ตรงกับใจคืออะไรกันแน่ การเลือกเชื่อแต่สิ่งที่ตรงกับใจ ก็คือ การที่เราเลือกที่จะเชื่อแต่ข้อมูล ที่ตรงกับความเชื่อเดิมของเราอยู่แล้ว พูดง่ายๆก็คือ เชื่อในสิ่งที่อยากเชื่อ และไม่เชื่อในสิ่งที่ไม่อยากเชื่อ ต่อให้มีหลักฐานมาหักล้างมากแค่ไหนก็ตาม ยิ่งคนเก่งยิ่งมีความมั่นใจในตัวเองสูง ยิ่งมีแนวโน้มที่จะตกหลุมพรางของการเลือกเชื่อแต่สิ่งที่ตรงกับใจ ได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ผลที่ตามมาก็คือ การตัดสินใจที่ผิดพลาด ความขัดแย้งกับคนรอบข้าง และการพลาดโอกาสในการเรียนรู้และเติบโต 

แล้วเราจะเอาชนะ การเลือกเชื่อแต่สิ่งที่ตรงกับใจ ได้อย่างไร ลองใช้เทคนิคคนที่คอยคัดค้านดูสิ คนที่คอยคัดค้านคือ การที่เราลองหาใครสักคน มาเถียงกับเรา มาท้าทายความคิดของเรา เพื่อให้เราได้มองเห็นในมุมมองที่แตกต่าง หรืออาจลองฝึกการตั้งใจฟัง อย่างจับใจความ ตั้งใจฟังคนอื่นอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่ฟังผ่านๆ หรือรอจังหวะที่จะพูดแทรก แต่เป็นการฟัง เพื่อทำความเข้าใจ ในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่ออย่างแท้จริง ลองถามคำถามให้มากขึ้น แทนที่จะเอาแต่แสดงความคิดเห็น เพราะการถามคำถามจะช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ และทำให้เราได้เรียนรู้จากคนอื่นมากขึ้น

กับดักที่ 2 ฉลาดล้ำแต่คิดเยอะจนเป็นอัมพาต

เคยเป็นไหม มีไอเดียดีๆผุดขึ้นมาในหัว เต็มไปหมด อยากทำนู่นอยากทำนี่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ลงมือทำสักที เพราะมัวแต่คิดเยอะวิเคราะห์มากเกินไป กลัวว่าจะพลาด กลัวว่าจะล้มเหลว จนสุดท้าย กลับจมอยู่กับความคิดของตัวเอง นี่แหละคืออาการคิดมาก จนไม่กล้าทำ หรือคิดเยอะเกินจนเป็นอัมพาต ที่คนฉลาดหลายคน มักจะเป็นกัน ขงเบ้งเองก็เคยเจอสถานการณ์ ที่ต้องตัดสินใจในภาวะคับขัน ต้องคิดเร็วทำเร็ว ถ้ามัวแต่คิดวิเคราะห์ วางแผนจนละเอียดเกินไป อาจจะพลาดโอกาสสำคัญไปเลยก็ได้ อย่างตอนศึกผาแดง ซึ่งเป็นศึกครั้งสำคัญ ถ้าขงเบ้งมัวแต่คิดมาก ไม่กล้าตัดสินใจ ใช้ไฟเผากองทัพเรือของโจโฉ ประวัติศาสตร์อาจจะเปลี่ยนไปเลยก็ได้ มีงานวิจัยและสถิติมากมาย ที่ยืนยันว่าคนที่คิดเยอะเกินไป มักจะพลาดโอกาส มากกว่าคนที่ลงมือทำ แม้ว่าจะต้องเสี่ยงบ้างก็ตาม เพราะการไม่ทำอะไรเลย คือความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุด

แล้วเราจะเอาชนะ อาการคิดมากจนไม่กล้าทำ ได้อย่างไร ลองใช้กฎ 5 วินาทีดูสิ กฎ 5 วินาทีคือ ถ้าเราคิดอะไรได้ ให้ลงมือทำทันทีภายใน 5 วินาที อย่าปล่อยให้ความคิดมาขัดขวางเราไว้ ตัดสินใจให้เร็วขึ้นลดความลังเล แล้วไปเรียนรู้จากผลลัพธ์ จำไว้ว่าความสมบูรณ์แบบ คือศัตรูของความก้าวหน้า อย่ามัวแต่รอให้ทุกอย่างพร้อม เพราะไม่มีวันนั้น เริ่มจากทำไปก่อน แล้วค่อยปรับปรุงไปเรื่อยๆ ล้มเร็วเรียนรู้เร็ว คือคติประจำใจ ของคนที่ประสบความสำเร็จ อย่ากลัวที่จะล้มเหลว เพราะความล้มเหลว คือบทเรียนที่ล้ำค่า ซึ่งจะช่วยให้เราเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น

กับดักที่ 3 เก่งกว่าแต่ขาดสติ คุมอารมณ์ไม่ได้

เคยเจอไหม คนที่เก่งมาก มีความสามารถรอบด้าน แต่กลับพัง เพราะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ คนที่โมโหรุนแรง จนไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย นี่แหละคือกับดักที่น่ากลัว ที่คนฉลาดหลายคน มักจะมองข้ามไป นั่นก็คือ การขาดความฉลาดทางอารมณ์ หรือ EQ 

ขงเบ้งเป็นตัวอย่างที่ดี ของคนที่เก่งและฉลาด แต่ก็ใจเย็น มีสติ สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี แม้ในสถานะการที่กดดัน ลองนึกภาพ ตอนที่ขงเบ้งเผชิญหน้ากับจิวยี่ คู่ปรับตัวฉกาจ ที่คอยจ้องจับผิด และหาเรื่องเขาอยู่ตลอดเวลา ถ้าขงเบ้งเป็นคนใจร้อนวู่วาม คงจะแตกหักกับจิวยี่ ไปนานแล้ว และแผนการใหญ่ ก็คงจะล้มเหลวไม่เป็นท่า

นักวิทยาศาสตร์ด้านสมอง ยืนยันว่า EQ หรือความฉลาดทางอารมณ์ มีความสำคัญต่อความสำเร็จในชีวิต มากกว่าไอคิวหรือความฉลาดทางปัญญา เสียอีก เพราะอีคิวช่วยให้เราสามารถทำงานกับผู้อื่น ได้อย่างราบรื่น แก้ไขความขัดแย้งได้ สร้างความสัมพันธ์ที่ดี และนำพาทีมไปสู่เป้าหมายได้ คนที่ EQ ต่ำ ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาว เพราะไม่มีใครอยากทำงาน กับคนที่ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง

แล้วเราจะพัฒนา EQ ได้อย่างไร

ลองฝึกการมีสติ หรือการเจริญสติดูสิ การเจริญสติคือ การฝึกให้เราอยู่กับปัจจุบัน ขณะรู้ตัวว่ากำลังรู้สึกอะไร โดยไม่ตัดสิน ไม่ปล่อยให้อารมณ์ครอบงำ เมื่อเรารู้ทันอารมณ์ เราจะสามารถควบคุม และจัดการกับมันได้ดีขึ้น หรือถ้าคุณรู้สึกโกรธ หงุดหงิด ลองใช้เทคนิคหายใจเข้าลึกๆ การหายใจเข้าออก ลึกๆช้าๆ จะช่วยให้ร่างกายและจิตใจ ผ่อนคลายลง ลดความรุนแรงของอารมณ์ และทำให้เรามีสติกลับมาอยู่กับปัจจุบันได้ และที่สำคัญ อย่าลืมฝึกความเห็นอกเห็นใจ หรือการเอาใจเขามาใส่ใจ เราลองพยายามทำความเข้าใจ ในมุมมองของคนอื่น ว่าเขารู้สึกอย่างไร ทำไมเขาถึงทำแบบนั้น การที่เราเข้าใจคนอื่น จะช่วยลดความขัดแย้ง และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้ เมื่อเราเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น เราจะสามารถสื่อสาร และตอบสนองต่อพวกเขา ได้อย่างเหมาะสม และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะนำไปสู่ความสำเร็จ ทั้งในเรื่องส่วนตัว และการทำงาน เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกนี้ การทำงาน การใช้ชีวิต ล้วนต้องเกี่ยวข้องกับผู้คน หากเราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดี กับคนรอบข้างได้ ชีวิตเราก็จะง่ายขึ้น และมีความสุขมากขึ้น

และนี่ก็คือ 3 กับดักความคิด ที่คนฉลาดมักจะพลาด ถ้าไม่อยากพังไม่เป็นท่า แบบที่ขงเบ้งเตือน

สรุปแล้ว ความฉลาดอย่างเดียว ไม่พอที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ และมีความสุขของชีวิตได้ เราต้องรู้จักรู้ทันความคิดตัวเอง ไม่หลงไปกับ กับดักที่คนเก่งๆ มักจะพลาด นั่นก็คือ 

1 อย่าหลงตัวเองว่ารู้ดี จนไม่ฟังใคร

2 อย่าคิดเยอะเกินเหตุ จนไม่กล้าลงมือทำ 

3 อย่าปล่อยให้อารมณ์ อยู่เหตุผล

คำเตือนของขงเบ้ง ไม่ใช่แค่เรื่องในสามก๊ก แต่มันคือบทเรียนชีวิต ที่ใช้ได้กับทุกคน ทุกยุค ทุกสมัย ความฉลาดที่แท้จริงไม่ใช่แค่ IQ สูง แต่คือการรู้จักตัวเอง พัฒนาตัวเอง และใช้ชีวิตอย่างมีสติปัญญา 

ลองเอา 3 ข้อนี้ ไปสำรวจตัวเองดู แล้วเริ่มปรับเปลี่ยนพัฒนา เพื่อให้ความฉลาดของคุณ นำพาคุณไปสู่ความสำเร็จ และความสุขที่แท้จริง